รวมทริคดูแล รากเทียม ระยะยาว แข็งแรง คุ้มค่า เหมือนมีฟันแท้ซี่ใหม่
กลับมาใช้งานฟันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง เพราะทำ รากเทียม ซึ่งเสมือนเป็นฟันแท้ซี่ใหม่ของคุณ แม้เป็นของเทียม แต่คุณก็ต้องดูแลรักษาไม่ต่างจากฟันแท้ เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยไร้ปัญหามากวนใจ
เพราะเสียฟันแท้ไปแล้ว การทำ รากเทียม จึงเป็นทางออกที่จะทำให้คุณกลับมามีฟันครบทุกซี่ได้อีกครั้ง ซึ่งด้วยข้อดีที่ส่งเสริมทั้งสุขภาพช่องปาก และคุณภาพชีวิตที่ดี เช่น มีความคงทน แน่นกระชับไม่หลุดเหมือนฟันปลอมถอดได้ สวยงามเป็นธรรมชาติ บดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น จึงไม่แปลกที่หลายๆ คนตัดสินใจทำรากเทียมเพื่อทดแทนฟันแท้ที่สูญเสียไป
แต่ใช่ว่าหลังจากฝังรากเทียม และใส่ฟันปลอมเสร็จแล้วจะจบเพียงเท่านี้ เพราะคุณยังคงต้องดูแลรักษารากเทียมในระยะยาวด้วย ซึ่งอายุการใช้งานของรากเทียมก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษานี่แหละ ยิ่งดูแลได้อย่างถูกวิธี รากเทียมจะสามารถอยู่คงทนได้ตลอดชีวิต โดยวิธีการดูแลรักษารากเทียมในระยะยาวก็ไม่ต่างจากการดูแลฟันแท้ โดยจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย
รวมวิธีดูแลรักษา รากเทียม ให้อยู่กับคุณได้ยาวๆ
- อันดับแรก คุณต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด และไปพบทันตแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ หรืออย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก และเช็กสภาพของรากเทียม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ในภายหลัง
- การทำความสะอาดช่องปากคือสิ่งสำคัญ โดยคุณต้องแปรงฟันอย่างถูกวิธีอย่างน้อย 2 เวลา เช้าและก่อนนอน ด้วยยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ โดยอาจใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดตามซอกฟันร่วมด้วย หรืออาจใช้แปรงสีฟันสำหรับซอกฟันทำความสะอาดตามซอกฟันที่แปรงสีฟันปกติเข้าไปไม่ถึง เพื่อกำจัดเศษอาหารและคราบสกปรกที่ติดตามซอกฟัน เหงือก และรากเทียม ให้หลุดออกไปให้หมด โดยวิธีการแปรงซอกฟันที่ถูกต้อง คุณจะต้องสอดแปรงซอกฟันเข้าไปบริเวณช่องว่างระหว่างฟัน จากนั้นวางแปรงให้แนบด้านหนึ่งของซอกฟันบริเวณผิวฟันที่ติดกับเหงือก แล้วถูเข้าออกประมาณ 4-5 ครั้ง เบนแปรงมาแนบอีกด้านหนึ่งและดูเข้าออกเหมือนเดิม ทำแบบเดียวกันให้ครบทุกซอกฟันจะช่วยให้ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการรักษาสุขอนามัยในช่องปาก นั่นคือ อุปกรณ์ที่ช่วยทำความสะอาดช่องปากสำหรับผู้ที่ทำรากเทียม เป็นเครื่อง Waterpik หรือเครื่องพ่นน้ำทำความสะอาดฟัน ซึ่งน้ำที่พ่นออกมาด้วยแรงดันระดับต่าง ๆ จะเป็นตัวจัดการกับคราบจุลินทรีย์ และแบคทีเรีย อาจเกาะอยู่ตามฟันและแนวเหงือกให้ออกไปได้
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อรากเทียม เช่น
– การเคี้ยวอาหารแข็ง หรือเหนียวเกินไป จนอาจทำให้ครอบฟันแตกได้
– การรับประทานอาหารหรือขนมหวานเป็นประจำ จะทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากได้ง่าย เพราะฉะนั้นหลังรับประทานควรทำความสะอาดช่องปากทันทีจะดีที่สุด
– การเคี้ยวฟัน หรือนอนกัดฟันเป็นประจำ จะส่งผลให้ฟันสึก และครอบฟันแตกได้
– การสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์จัด จะส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากและฟัน
อย่างที่กล่าวไป หากคุณสามารถดูแลรากเทียมได้อย่างถูกวิธี ก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของรากเทียมได้อย่างยาวนาน และลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาแทรกซ้อนต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งวิธีการดูแลรักษาก็ไม่ได้ยุ่งยาก ดังนั้น ใครที่สูญเสียฟัแท้ไป เราก็ยืนยันว่าการทำรากเทียมที่ BFC Dental ทุกสาขา คือทางเลือกที่ดีที่จะทำให้คุณมีสุขภาพช่องปาก และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน