เคี้ยวอาหารไม่ถนัด เปลี่ยนฟันปลอมเป็น รากเทียมทั้งปาก จะแก้ปัญหาได้หรือไม่?
ถึงจะใส่ฟันปลอม แต่ก็ยังเคี้ยวอาหารไม่ถนัดอยู่ดี ไม่อยากทนกับปัญหาแบบนี้อีกต่อไป รากเทียมทั้งปาก จะเป็นทางออกที่ดีที่ช่วยคุณได้หรือไม่ มาดูกัน!
รากเทียมทั้งปาก ดูจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับผู้สูญเสียฟันแท้ นอกจากจะดูเหมือนฟันธรรมชาติแล้ว การใช้งานก็ยังมีประสิทธิภาพใกล้เคียงฟันแท้อีกด้วย ตรงกันข้ามกับฟันปลอมแบบถอดได้ ที่ทำให้บางคนต้องประสบกับปัญหาการบดเคี้ยวไม่มีประสิทธิภาพจากหลายสาเหตุ เช่น ฟันปลอมไม่พอดีกับช่องปาก ฟันปลอมหลวมหรือขยับเวลาเคี้ยวอาหาร ฟันปลอมไม่เป็นมิตรกับช่องปาก จนอาจทำให้เกิดแผลร้อนในอยู่บ่อย ๆ เป็นต้น เมื่อมีปัญหาการบดเคี้ยวหลังใส่ฟันปลอมมานาน ก็ย่อมมีผลกระทบอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็น
ทำรากเทียมทั้งปาก เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบที่มีต้นเหตุมาจากปัญหาการบดเคี้ยวที่เกิดจากการใส่ฟันปลอม
- หมดสนุกกับการกิน แม้จะกินอาหารหรือของที่ชอบก็ตาม เพราะคุณเคี้ยวอาหารพวกนี้ไม่ได้หรือไม่มีประสิทธิภาพมากพอ
- บางคนอาจเกิดภาวะเบื่ออาหาร ไม่อยากอาหารจนอาจนำไปสู่ภาวะขาดสารอาหารได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อร่างกายโดยรวม ทั้งนี้กรณีแบบนี้มักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ รากเทียมทั้งปากจึงเป็นทางออกที่ดีที่ช่วยลดความเสี่ยงจะเกิดปัญหานี้ได้
- เมื่อเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียดพอ ระบบอื่น ๆ ภายในร่างกายย่อมต้องทำงานหนักกว่าเดิมตามไปด้วย ทั้งระบบย่อยอาหาร ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร ระบบขับถ่ายมีปัญหา อาจทำให้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องผูกได้
- ฟันปลอมทำให้เคี้ยวอาหารไม่ถนัด จนอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บภายในช่องปากได้ง่าย เช่น แผลร้อนในที่เกิดจากการกดทับของฟันปลอมที่ไม่พอดี พลาดกัดโดนกระพุ้งแก้มจนเป็นแผลในปาก
เคลียร์ปัญหาเพื่อให้คุณกลับมาบดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการทำรากเทียมทั้งปาก ไร้ปัญหากวนใจเหล่านี้ได้ภายใน 7 วัน ยกตัวอย่างด้วยเคสนี้ ที่ต้องเผชิญปัญหาเช่นเดียวกัน
คนไข้เคสนี้กำลังเผชิญกับปัญหาการบดเคี้ยว เพราะใส่ฟันปลอม โดยคนไข้ได้เข้ามาปรึกษาหลังใส่ฟันปลอมในฟันหลังทั้งฟันบนและฟันล่างมาเป็นระยะเวลานาน จนทำให้มีปัญหาการบดเคี้ยวอาหารไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร รวมไปถึงฟันแท้ที่เหลืออยู่มีอาการติดเชื้อ และฟันโยกในบางตำแหน่งด้วย
หลังจากคุณหมอวินิจฉัย ตรวจช่องปาก และภาพ X-ray เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงวางแผนการรักษาโดยการถอนฟันทั้งหมดออก เนื่องจากมีอาการฟันโยกอย่างรุนแรง และฟันติดเชื้อหลายซี่ หลังจากนั้นจะทำการฝังรากเทียมทั้งปาก ทั้งฟันบนและฟันล่าง โดยฝังรากเทียมทั้งหมด 4 ตัวในฟันบน และอีก 4 ตัวในฟันล่าง 7 วันหลังฝังรากเทียมทั้งปากเสร็จเรียบร้อยจะมีการใส่สะพานฟันอะคริลิก (PMMA) ที่มีสีและความวาวใกล้เคียงฟันธรรมชาติ จึงทำให้คนไข้กลับมามีฟันใหม่ที่บดเคี้ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพภายในระยะเวลา 7 วันเท่านั้น
อยากกลับมามีความสุขกับการกินอีกครั้ง ก็ค้องเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการทำรากเทียมทั้งปาก ที่ BFC Dental พร้อมให้คุณมีฟันใหม่ได้ภายใน 7 วัน
