ไม่ใส่ฟันปลอม มีผลระยะยาวหรือไม่?
สูญเสียฟันแท้ แต่ ไม่ใส่ฟันปลอม ปล่อยให้ฟันโล่ง ฟันหลอ ส่วนใหญ่มีหลายสาเหตุด้วยกันที่ทำให้ผู้ที่สูญเสียฟันไม่อยากใส่ฟันปลอม (ในกรณีใส่ฟันปลอมแบบถอดได้)
- ใส่ฟันปลอมแล้วดูมีอายุ
- รู้สึกไม่มั่นใจเพราะฟันปลอมไม่สวยงาม ดูไม่เป็นธรรมชาติ สีฟันไม่เหมือนสีฟันซี่อื่น
- รู้สึกรำคาญฟันปลอมที่มีการขยับอยู่ตลอดเวลาเพราะใส่แล้วไม่พอดีกับเหงือก
- ใส่แล้วรู้สึกไม่สะดวก รวมถึงทำให้เสียบุคลิก เพราะต้องถอดเข้า – ออก เพื่อทำความสะอาดและทุกครั้งเวลาเข้านอน
ถ้า ไม่ใส่ฟันปลอม ระวังฟันซี่อื่นอาจจะหายไปด้วย
ส่วนใหญ่ผู้ที่สูญเสียฟันแท้ และไม่ได้รักษาโดยการทดแทนฟัน จะมีเปอร์เซ็นต์สูงที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันด้านอื่นตามมา โดยเฉพาะผู้ที่สูญเสียฟันหน้าที่จะส่งผลชัดเจนที่สุดในเรื่องบุคลิกภาพ ความมั่นใจในการใช้ชีวิต การพบปะผู้คน เมื่อยิ้มเห็นฟันก็ทำให้คุณดสูญเสียความมั่นใจ รวมถึงการพูดออกเสียงไม่ชัดเจน และในกรณีที่สูญเสียฟันด้านในที่มีความสำคัญในการบดเคี้ยว ก็ทำให้การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด ส่งผลถึงระบบย่อยอาหารและสุขภาพร่างกายโดยรวมด้วย และด้วยธรรมชาติของฟันจะมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา หากฟันโล่งฟันหลอบริเวณใด ฟันที่อยู่ข้างเคียงก็จะเคลื่อนที่และล้มเอียงไปยังพื้นที่โล่งนั้น ปัญหาที่ตามมาคือจะเป็นแหล่งสะสมของเศษอาหาร ทำให้เศษอาหารติดฟันได้ง่ายเมื่อรับประทานอาหาร จึงเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพเหงือก และทำให้ฟันผุ เพราะทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง
กรณีที่สูญเสียฟันซี่ที่สำคัญกับการบดเคี้ยว ไม่ว่าจะข้างใดข้างหนึ่ง ทำให้คุณต้องใช้แรงบดเคี้ยวของฟันดีมากขึ้นอีกเท่าตัว ก็อาจทำให้มีผลต่อกล้ามเนื้อและข้อต่อขากรรไกร อาจจะต้องใช้วิธีการรักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งปัญหาดังกล่าวหากปล่อยระยะเวลานานก็จะทำให้การรักษาเป็นไปได้ยากและเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น
การเลือกวิธีรักษาเพื่อทดแทนฟันที่หายไป ปัจจุบันมีหลายทางเลือก
- ฟันปลอมแบบถอดได้
- ฟันปลอมแบบยึดติดแน่น
- การทำรากเทียม
ปัจจุบันการทำรากเทียมก็เป็นทางเลือกส่วนใหญ่ เนื่องจากใช้งานได้มีประสิทธิภาพไม่ต่างจากฟันธรรมชาติเลย มีอายุการใช้งานประมาณ 10 ปีขึ้นไป (ขึ้นอยู่การดูแลรักษาของคนไข้) ให้ความสวยงามเหมือนฟันแท้ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างของตัวฟันหรือสีฟัน การบดเคี้ยวอาหารก็เป็นไปในทางที่ดีขึ้น เรียกความมั่นใจและบุคลิกที่ดีของคุณกลับมาได้อย่างแน่นอน
ไม่ว่าการเลือกแนวทางหรือวิธีการรักษาเพื่อทดแทนฟันของคุณคือวิธีใด ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับคนไข้แต่ละราย ทางที่ดีที่สุดคือการเข้าพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาและรับคำแนะนำที่ถูกต้อง เพื่อให้การรักษาที่ได้ผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพ คนไข้ควรเข้าพบทันตแพทย์ทุกครั้งตามนัด และตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เพื่อสุขภาพช่องปากที่แข็งแรง พร้อมให้คุณใช้งานได้ยาวนาน