แปรงสีฟัน แต่ละชนิด แตกต่างกันอย่างไร?

แปรงสีฟัน อุปกรณ์สำคัญสำหรับทำความสะอาดช่องปากและฟัน ที่เคียงคู่อยู่กับยาสีฟันในห้องน้ำของทุกบ้าน ซึ่งแปรงสีฟันที่มีขายตามท้องตลาดในปัจจุบันนั้น มีหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่ละแบบมีการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างไร มาดูกันเลย!

แปรงสีฟัน มีกี่ชนิด?

สุขภาพช่องปากและฟันเป็นสิ่งสำคัญที่เราละเลยไม่ได้ เราจึงจำเป็นต้องดูแลความสะอาดภายในช่องปากเป็นประจำ เพราะช่องปากและฟันถือเป็นด้านแรกที่อาหารมากมายจะต้องผ่านเข้าไปสู่ร่างกาย อาหารจะผ่านเข้าสู่ปาก ผ่านลิ้น ผ่านการบดเคี้ยวโดยฟัน ก่อนจะลงไปยังหลอดอาหาร จึงไม่แปลกที่จะมีเศษอาหาร หรือคราบสกปรกตกค้างในช่องปาก และฟันของเรา ดังนั้น หากเราละเลยการทำความสะอาดช่องปากและฟัน ก็ย่อมต้องเกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ปัญหากลิ่นปาก หินปูน ฟันผุ และโรคเหงือกอักเสบ จนอาจนำไปสู่การสูญเสียฟันได้ในที่สุด จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องหาอุปกรณ์ในการทำความสะอาดช่องปาก แปรงสีฟันเลยกลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานในการดูแลสุขอนามัยช่องปากที่ขาดไม่ได้

โดยแปรงสีฟันบวกกับยาสีฟันฟันจะเข้าไปทำความสะอาดภายในช่องปาก ขนแปรงขนาดเล็กๆ จะซอกซอนเข้าไปตามซอกฟัน ขัดคราบสกปรก และเศษอาหารให้หลุดออกไปได้ ปัจจุบันมีแปรงสีฟันขายหลายหลายรูปแบบ โดยรูปลักษณ์ของแปรงแต่ละชนิดจะถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกัน ได้แก่ แปรงสีฟันธรรมดา แปรงสีฟันไฟฟ้า แปรงซอกฟัน แปรงกระจุก แปรงลิ้น และแปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟัน

แปรงสีฟัน แต่ละแบบใช้งานอย่างไร?

  • แปรงสีฟันธรรมดา (Toothbrush)

แปรงสีฟันธรรมดา อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับขจัดคราบสกปรก คราบพลัค และเศษอาหารตกค้างออกจากช่องปากนั้นมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งวัสดุที่ใช้ทำขนแปรงที่มีหลายแบบ ชนิดของขนแปรง ทั้งชนิดปานกลาง ชนิดนุ่ม และนุ่มพิเศษ ความยาวของขนแปรง ขนาดแปรง และหัวแปรง โดยเราต้องพิจารณาเลือกตามความต้องการ และอายุของผู้ใช้งานเป็นหลัก ซึ่งถูกจำแนกเป็น

  • แปรงสีฟันสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
  • แปรงสีฟันสำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี
  • แปรงสีฟันสำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี
  • แปรงสีฟันสำหรับผู้ใหญ่ 

ซึ่งในแต่ละช่วงวัยขนาดของแปรง หัวแปรง และขนแปรงจะแตกต่างกัน จึงต้องเลือกให้เหมาะสม เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อช่องปากและฟัน

  • แปรงสีฟันไฟฟ้า (Electric toothbrush)

ด้วยรูปลักษณ์ และฟังก์ชันการใช้งานที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน จึงทำให้แปรงสีฟันไฟฟ้าได้รับความนิยมในหมู่คนทั่วไปในช่วงเวลาหนึ่ง ทั้งที่จริงแล้ว จุดเริ่มต้นของแปรงสีฟันไฟฟ้านั้น ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวมือและแขนได้เป็นปกติใช้งานเป็นหลัก แม้ราคาจะสูง แต่หลายคนก็ยอมจ่ายเพื่อแลกมากับความสะดวกสบาย และฟันที่สะอาด ซึ่งหากพูดถึงประสิทธิภาพในการทำความสะอาดแล้วล่ะก็ มีผลวิจัยมากมายยืนยันว่า แปรงสีฟันไฟฟ้ากับแปรงสีฟันธรรมดามีประสิทธิภาพการขจัดคราบจุลินทรีย์ และสิ่งสกปรกในช่องปากและฟันไม่ต่างกัน แต่ข้อดีที่เห็นได้ชัดของการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า ก็คือ ลดความเสี่ยงที่เคลือบฟันจะถูกทำลาย และปัญหาเหงือกร่นได้ เนื่องจาก สามารถควบคุมแรงในการแปรงได้อย่างเหมาะสม และสม่ำเสมอ ต่างจากแปรงสีฟันธรรมดาที่ผู้ใช้งานเป็นผู้ออกแรงแปรง

ปัจจุบัน แปรงสีฟันไฟฟ้าสามารถจำแนกตามลักษณะ ความล้ำสมัยของเทคโนโลยี และฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ได้ เช่น แปรงสีฟันไฟฟ้าสำหรับฟันบอบบาง แปรงสีฟันไฟฟ้าที่แก้ปัญหาไหมขัดฟันได้ เป็นต้น ทางที่ดีหากอยากลองใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า แนะนำให้ศึกษาวิธีการใช้งานให้ดี เลือกแบบที่เหมาะกับตนเองมากที่สุด และท้ายที่สุดต้องเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน โดยเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของตนเอง

แปรงสีฟัน

  • แปรงซอกฟัน (Interdental brush or interproximal brush)

แปรงซอกฟัน ลักษณะคล้ายแปรงล้างขวดนม แต่ย่อส่วนให้มีขนาดเล็กลง มีหลายขนาดให้เลือก มีทั้งแบบมีด้าม และไม่มีด้ามจับ ใช้สำหรับทำความสะอาดตามซอกฟันในผู้ที่มีช่องว่างระหว่างฟัน และผู้ใส่เครื่องมือจัดฟัน เพื่อกำจัดเศษอาหารตกค้าง และคราบสกปรก แปรงซอกฟันจะใช้หลังแปรงฟันตามปกติเสร็จ โดยการดึงเข้า-ออก หมุนแปรงเป็นวงกลม และถูเบา ๆ ประมาณ 3-4 ครั้ง ตามซอกฟัน และเหล็กจัดฟันให้ครบทุกซี่ แล้วจึงบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าอีกครั้ง การแปรงซอกฟันเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงที่ฟันจะผุขณะจัดฟันได้

  • แปรงกระจุก (End tuff brush or single tuff brush)

แปรงสีฟันหัวเล็กหรือแปรงกระจุก ที่ถูกออกแบบให้หัวแปรงเล็กเพื่อให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ในช่องปากที่แปรงสีฟันธรรมดาเข้าไปไม่ถึง เช่น ฟันซี่ท้ายสุดของแถว ฟันเกและซ้อนกัน เป็นต้น 

แปรงกระจุกขนาดเล็กจะเข้าถึงบริเวณจุดเล็กๆ ทำให้ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกแบบซี่ต่อซี่ โดยการใช้งานแปรงกระจุก ไม่จำเป็นต้องใช้ยาสีฟันขณะแปรง ให้วางตำแหน่งหัวแปรงลงบนผิวฟันใกล้ๆ ขอบเหงือก และแปรงด้วยการขยับวนเป็นวงกลมสั้นๆ อย่างเบามือ ในบริเวณที่ต้องการ จะช่วยให้ฟันและช่องปากสะอาดยิ่งขึ้น

  • แปรงลิ้น (Tongue brush)

แปรงลิ้น แปรงที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้ขัดลิ้นโดยเฉพาะ มีลักษณะหัวแปรงเป็นสามเหลี่ยม ตรงกลางเป็นร่อง มีซี่ฟันปลาเล็กๆ หรือขนแปรง ใช้สำหรับขจัดคราบสกปรก และแบคทีเรียออกจากลิ้น การแปรงลิ้นจะเริ่มทำความสะอาดจากด้านในออกมาด้านนอก โดยจะทำซ้ำ 2-3 ครั้ง เพื่อการทำความสะอาดลิ้นที่ทั่วถึง ซึ่งการแปรงลิ้นหลังแปรงฟันเป็นประจำ จะช่วยลดแบคทีเรียในช่องปาก และสารระเหยกำมะถันซึ่งเป็นต้นเหตุของกลิ่นปากได้

  • แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟัน

แปรงสีฟันสำหรับคนจัดฟัน เป็นสิ่งจำเป็นที่คนจัดฟันเหล็กควรมี ด้วยลักษณะของขนแปรงที่ดีไซน์ให้มีร่องขนแปรงตรงกลาง เพื่อให้สามารถทำความสะอาดฟัน ขอบเหงือก และอุปกรณ์จัดฟันได้ โดยไม่กระทบกับเหล็กจัดฟัน หรือทำให้เหล็กจัดฟันหลุด จึงทำให้การแปรงฟันง่ายและทำความสะอาดได้ทั่วถึงมากขึ้น ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่จัดฟันแบบโลหะเป็นอย่างยิ่ง 

เพราะแปรงสีฟันมีหลากหลายรูปแบบ และแต่ละแบบก็มีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน จึงต้องศึกษาให้ดี เพื่อจะได้เลือกใช้แปรงสีฟันได้เหมาะสมกับสภาพช่องปาก และฟันของตนเอง แต่นอกจากแปรงสีฟันที่ต้องเลือกให้ดีแล้ว ก็อย่าลืมเลือกคลินิคที่ดีอย่าง BFC Dental เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาฟันและช่องปากในอนาคตได้

Recommended Posts
Contact Us

We're not around right now. But you can send us an email and we'll get back to you, asap.